นาฏศิลป์เอเชียใต้ วัฒนธรรมล้ำลึก
วัฒนธรรมอินเดียไม่ได้มีแค่บอลลีวูดเท่านั้น หลิวเซวียนเจิน นักเต้นรำชาวไต้หวัน ผู้ซึ่งเรียนนาฏศิลป์ที่ประเทศอินเดียมานานกว่าสิบปี เธอได้จัดเวิร์กชอปที่ไต้หวัน เพื่อเผยแพร่ระบำ โมหินิยัตตัม (Mohiniyattam) นาฏศิลป์อินเดียแบบดั้งเดิมที่งดงาม อ่อนช้อยและประสานกลมกลืน พร้อมทั้งให้ผู้ที่เข้าร่วมเวิร์กชอปได้เรียนรู้ความหมายของท่าร่ายรำ ลีลาของมือแต่ละท่า เพื่อให้เข้าใจวัฒนธรรมอินเดียในเชิงลึกมากขึ้น
หลิวเซวียนเจินกล่าวว่า ผู้ร่ายรำนาฏศิลป์ดั้งเดิมก็เหมือนกับนักเล่าเรื่องที่ถ่ายทอดเรื่องราวของเทพเจ้า ปรัชญาปลุกชาวโลกให้แก่ผู้คนได้รับฟัง โดยเฉพาะการระบำโมหินิยัตตัม จะต้องร่ายรำประกอบกับการทำท่าทางของมือ (มุทรา -Mudra) ที่ถูกต้อง
หลิวเซวียนเจินเป็นหนึ่งในนักเต้นชาวไต้หวันไม่กี่คน ที่มีโอกาสเข้าไปโลดแล่นในวงการบอลลีวูดในเมืองบอมเบย์ของอินเดีย เธอเคยเต้นรำในภาพยนตร์ของบอลลีวูดถึงหกเรื่อง อาทิ เพลง Dhaani Chunariya ในเรื่องสุดยอดพี่เลี้ยง (Super nani) หรือเพลง Lucky Tu Lucky Me ในเรื่องเจ้าสาววุ่นวายของนายฮัมพ์ตี้ ชาร์มา (Humpty Sharma Ki Dulhania)
แต่เธอไม่อยากเป็นเพียงนักเต้นที่ถูกกลืนหายอยู่ท่ามกลางเหล่านักเต้นมากมาย เธอจึงเดินทางไปสถาบันนาฏศิลป์กาลามันดาลัม (Kalamandalam) ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐเกรละ ทางตอนใต้ของอินเดีย เพื่อเรียนระบำโมหินิยัตตัมแบบดั้งเดิม เธอค้นพบว่า ชาวเกรละและผู้คนที่มีเชื้อสายจีนมีความเชื่อมโยงระหว่างกันหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น รัฐเกรละมีประเพณีการแข่งขันเรืองู ซึ่งคล้ายกับการแข่งเรือมังกรในช่วงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างของไต้หวัน นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมจีนมากมาย ด้วยเหตุนี้ หลิวเซวียนเจินจึงเคยจัดงาน “เทศกาลภาพยนตร์ไต้หวัน” ขึ้นในรัฐเกรละ โดยหวังว่าจะเป็นการปูรากฐานเพื่อต่อยอดสู่การจัดเทศกาลศิลปะไต้หวันในอนาคต
หลิวเซวียนเจินยังได้ร่วมมือกับศิลปินในท้องถิ่น ก่อตั้ง “กาลาไต้หวัน” (กาลา Kala มาจากคำในภาษาฮินดี แปลว่า ศิลปะ) โดยมีความตั้งใจว่าจะหยิบเอาตำนานเรื่องเล่าของไต้หวัน เช่น ตำนานนางพญางูขาว ผสมผสานกับท่าเต้นนาฏศิลป์อินเดียแบบดั้งเดิม รังสรรค์ออกมาในรูปแบบละครเพลง เพื่อทำการแสดงในไต้หวันและอินเดีย
ดั่งที่หนังสือเรื่อง “ภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์” (The Geography of Creativity) เคยกล่าวไว้ คนทำงานศิลปะล้วนกำลังมองหาสถานที่ที่ผู้คน ความสัมพันธ์ แนวคิด และพรสวรรค์สามารถมาผสมผสานกัน เพื่อที่จะได้จุดประกายซึ่งกันและกัน สำหรับโมฮาเหม็ดที่เดินทางมาไต้หวัน หรือหลิวเซวียนเจินที่ใช้เวลาร่วมทศวรรษกับการเดินทางไปมาระหว่างอินเดียและไต้หวัน พวกเขาต่างค้นพบดินแดนที่สามารถอุทิศทักษะของตัวเองให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว
TW-EGY คณะนักเต้นรำพื้นบ้านตะวันออกกลาง แสดงการเต้นรำดั้งเดิมของชนเผ่าอามิสที่อินเดีย (ภาพจาก TW-EGY คณะนักเต้นรำพื้นบ้านตะวันออกกลาง)