@ใช้เทคโนโลยีทำลายกำแพงของห้องเรียน
หลังจากที่คุณหลวี่ก้วนเหว่ย ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานและ CEO ของมูลนิธิแพลตฟอร์มการศึกษาจวินอี ในเดือนธันวาคม ค.ศ.2017 ขณะที่คุณหลวี่ก้วนเหว่ยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของจวินอี ก็ยังคงทำตัวเหมือนเป็นคุณครู ด้วยการเขียนบนกระดานไวท์บอร์ดเป็นภาษาอังกฤษว่า “1. Smart Assistant 2. Training Coach 3. Policy Advocacy” ทำให้บรรยากาศในการสัมภาษณ์เหมือนกับกำลังชมวิดีโอการสอนเลยทีเดียว
คุณหลวี่ก้วนเหว่ยอธิบายเพิ่มเติมว่า “จวินอีได้ใช้เทคโนโลยี AI, Big Data และ Smart Software เพื่อสร้าง Smart Assistant (ผู้ช่วยอัจฉริยะ) มาเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยในการเรียนการสอนของทั้งครูและนักเรียน ส่งผลให้ความรู้ที่อยู่บนกระดานดำในห้องเรียนจะยังคงอยู่และไม่หายไปหลังจากเลิกเรียน”
วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษของระดับประถมไปจนถึงมัธยมปลาย โดยมีเหล่าครูอาสาสมัครมาช่วยสอนและอัดเป็นวีดิทัศน์นับหมื่นคลิปและเปิดให้เรียนฟรี รวมถึงแบบฝึกหัดหลังจากดูคลิปจนจบแล้วด้วย
เมื่อมีครูสอนพิเศษฟรีออนไลน์แล้ว คุณหลวี่ก้วนเหว่ยยกตัวอย่างว่า เดิมทีมีเด็กนักเรียนชั้นป. 5 ในเถาหยวนคนหนึ่งสอบได้คะแนนไม่ค่อยดีจนถูกครูสงสัยว่าจะเป็นเด็กสมาธิสั้น จึงถูกคุณครูส่งไปเข้าเรียนกับแพลตฟอร์มจวินอี หลังจากนั้น 1 ปี นักเรียนคนนี้สามารถสอบวิชาคณิตศาสตร์ได้คะแนนสูงเป็นอันดับ 5 ของห้อง ทำให้ผู้ปกครองถึงกับต้องมาขอบคุณคุณครูถึงที่โรงเรียน พร้อมทั้งสอบถามว่า คุณครูเสกคาถาอะไร? แต่ที่จริงแล้วเป็นเพราะว่า เด็กรู้สึกว่าเนื้อหาของวิชาคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษาในห้องเรียนมันง่ายเกินไปจนรู้สึกเบื่อและไม่อยากทำความเข้าใจ แต่การเรียนกับแพลตฟอร์มจวินอีด้วยตนเองทำให้สามารถเรียนล่วงหน้าไปได้เรื่อยๆ ตามความต้องการ
“เทคโนโลยีช่วยเปิดโอกาสอย่างเต็มที่ เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ไปตามจังหวะและความเร็วของตัวเอง ส่งผลให้ครูผู้สอนสามารถให้ความรู้แก่ผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม” คุณหลวี่ก้วนเหว่ยย้ำ
คุณครูเจิงเจียเหว่ยของโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นจื้อหมิน ใช้แพลตฟอร์มจวินอีเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านการเรียนการสอน