ขบวนรถไฟเพื่อการท่องเที่ยว : สร้างคุณภาพให้แก่การท่องเที่ยวแบบ Slow travel
สถานีรถไฟเป็นทัศนียภาพที่หยุดนิ่ง แต่ขบวนรถไฟจะดึงทัศนียภาพที่กำลังเคลื่อนไหวเข้าสู่ภายในตู้โดยสาร
ชิวป๋อเหวิน (邱柏文) ผู้ก่อตั้ง J.C. Architecture เคยคว้ารางวัลใหญ่ๆ ในด้านการออกแบบทั้งจากในและต่างประเทศจำนวนมาก และกลับมาจากต่างประเทศได้สิบกว่าปีแล้ว เขาเล่าว่า การออกแบบสถานีรถไฟคือความฝันในวัยเด็กของเขา แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ การออกแบบและสุนทรียศาสตร์ของการรถไฟไต้หวันที่ย้อนแย้งกับยุคสมัยก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากทุกวงการ ในฐานะที่เป็นนักออกแบบ ชิวป๋อเหวินเฝ้าครุ่นคิดว่าเขาจะใช้ความรู้ความสามารถในด้านการออกแบบของตนเองมาช่วยการรถไฟไต้หวันเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง แต่เนื่องจากไม่รู้จักบุคคลสำคัญในการรถไฟไต้หวัน เขาจึงเขียนจดหมายแสดงเจตจำนง โดยระบุว่า วงการนักออกแบบยินดีให้ความช่วยเหลือ ซึ่งก็มีจดหมายตอบกลับมาจากอู๋ฮั่นจง (吳漢中) หนึ่งในสมาชิกของทีมที่ปรึกษาด้านสุนทรียศาสตร์ของการรถไฟไต้หวัน ซึ่งมีฉายาว่า CEO แห่งสุนทรียศาสตร์ สองสัปดาห์ถัดมา ชิวป๋อเหวินถูกเชิญให้ไปที่สำนักงานของการรถไฟไต้หวัน เพื่อเสนอโครงการขบวนรถไฟรอบเกาะ
ปลายปี 2019 ได้มีการเปิดตัวขบวนรถไฟเพื่อการท่องเที่ยวในรูปโฉมใหม่ โดยในการเปิดตัวครั้งใหม่นี้ ด้านนอกของตัวรถไฟใช้ 2 สี คือ สีดำกับสีส้ม โดยสีดำให้ความรู้สึกที่ลึกลับและทรงเกียรติ อีกทั้งยังช่วยเสริมให้สีส้มซึ่งเป็นสีของขบวนรถไฟด่วนจวี๋กวงที่ชาวไต้หวันทุกคนจดจำได้ดี มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ชิวป๋อเหวินเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อโชว์แบบร่างแผ่นหนึ่ง พร้อมอธิบายว่า “ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากความทรงจำที่เกี่ยวกับสีสันของไต้หวันที่ผมสัมผัสได้ในระหว่างที่อยู่บนรถไฟสายอาลีซาน เปรียบเสมือนสายลมในฤดูใบไม้ร่วงที่พัดโชยเข้าสู่ภายในตู้โดยสาร แล้วเวลาก็หยุดชะงักลงชั่วคราว ทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่ภายในตู้รถไฟ ดังนั้นจึงเรียกว่า สายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วง (Autumn Breeze)”
การตกแต่งภายในขบวนรถไฟสอดรับกับทัศนียภาพนอกหน้าต่าง ม่านหน้าต่างใช้ผ้าทอที่มีลวดลายรูปทรงเรขาคณิตทับซ้อนกันกลายเป็นภาพของเทือกเขา ซึ่งมีต้นแบบมาจากผลงานของ Yuma Taru ช่างหัตถศิลป์ที่เป็นชนพื้นเมือง ส่วนสีของเก้าอี้ใช้สีน้ำเงินและสีเทาซึ่งเป็นสีคนละเฉดกัน แต่สอดรับกับสีของท้องทะเลและโขดหิน “ผมพูดเสมอว่า ความจริงเราไม่ได้ทำอะไรเลย ผมแค่ดึงทัศนียภาพภายนอกเข้ามา แล้วก็จับทิวทัศน์ในฤดูกาลทั้งสี่เข้ามาด้วยเท่านั้นเอง”
ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นการสร้างประสบการณ์อันละเอียดอ่อนให้กับประสาทสัมผัสทั้ง 5 และเป็นการทบทวนรูปแบบของการเดินทางท่องเที่ยว ชิวป๋อเหวินกล่าวว่า “กรณีนี้ก็คือ ใช้การออกแบบเพื่อก้าวข้ามกรอบจำกัดเดิม ทำให้รู้สึกเหมือนกับเป็นการทบทวนรูปแบบการท่องเที่ยวแบบ Slow travel กันใหม่”
จากพลังแห่งการออกแบบทำให้การรถไฟไต้หวันที่มีประวัติเก่าแก่ 133 ปี กำลังเร่งปรับปรุงแก้ไขและสร้างโอกาสใหม่ๆ รถไฟทุกขบวนและสถานีรถไฟทุกแห่ง ต่างบอกเล่าเรื่องราวของไต้หวันที่ล้วนสัมผัสได้ถึงความจริงและความงดงามของไต้หวัน ขอให้รีบค้นหาคนที่ใช่ แล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน พร้อมๆ กับภูมิทัศน์ของการรถไฟไต้หวันที่กำลังแปรเปลี่ยนไป
เพดานหลังคาของสถานีรถไฟฉือซ่างที่ใช้คานไม้รูปโค้งมนพาดสลับกันไปมา ให้ความรู้สึกราวกับเป็นลีลาแห่งท่วงทำนอง ส่วนผนังกระจกด้านหน้าสถานีรถไฟก็เป็นเสมือนแผ่นผ้าสำหรับวาดภาพ ที่มีเงาของต้นไม้และก้อนเมฆสีขาวกำลังหยอกล้อกัน
นอกจากคำนึงถึงความต้องการพื้นฐานแล้ว ยังอัดฉีดแนวคิดด้านการออกแบบเข้าไป อาทิ สีของเก้าอี้ ใช้สีน้ำเงินและสีเทาซึ่งเป็นสีคนละเฉดกัน แต่สอดรับกับสีของท้องทะเลและโขดหิน (ภาพจาก J.C. Architecture ถ่ายโดย หลี่กั๋วหมิน)
ให้ความสำคัญแม้แต่ราย ละเอียดที่เล็กที่สุด เพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้น(ภาพจาก J.C. Architecture ถ่ายโดย หลี่กั๋วหมิน)
ให้ความสำคัญแม้แต่ราย ละเอียดที่เล็กที่สุด เพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้น(ภาพจาก J.C. Architecture ถ่ายโดย หลี่กั๋วหมิน)
ในขณะที่ขบวนรถไฟเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ทัศนียภาพนอกหน้าต่างจะถูกดึงเข้าสู่ภายในตู้โดยสาร ขอเชิญทุกท่านมาทำความรู้จักกับไต้หวันกันใหม่ (ภาพจาก J.C. Architecture ถ่ายโดย หลี่กั๋วหมิน)