ค้นพบบริบทของตนเอง
มีบางคนเห็นว่า จำเป็นต้องมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ข้างถนนของไต้หวันที่เต็มไปด้วยป้ายร้านค้าครั้งใหญ่ หรืออาจต้องให้หน่วยงานรัฐบาลเข้ามาช่วยกำกับ แต่ ดร. หลี่หมิงชงมองว่า หากไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นเอง ล้วนเป็นอันตราย “ต้องเริ่มจากสุนทรียศึกษา ความรู้สึกในด้านสุนทรียศาสตร์ และความเห็นพ้องร่วมกันด้านความสวยงามของประชาชน ซึ่งต้องใช้เวลายาวนานทีเดียว” นอกจากนี้ “ไต้หวันไม่จำเป็นในการใช้ทางลัด” เมื่อในสังคม มีคนหารือกันถึงเรื่องนี้มากขึ้น ก็จะมีการจัดนำชมเพื่อให้รู้จักเรื่องราวของภูมิทัศน์ท้องถนนมากขึ้น เป็นการพาทุกคนไปดูให้ “เห็นกับตา” เพื่อจะได้มีการ “หารือกัน” นานวันเข้าก็ทำให้เกิดการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน โละทิ้งของเก่านำของใหม่มาทดแทนและจะสามารถค้นพบบริบทของตนเองได้ในที่สุด
ในความเป็นจริงแล้ว ช่วงไม่กี่ปีมานี้ การออกแบบป้ายร้านค้าบางส่วนเริ่มส่งผลให้ทัศนียภาพตามท้องถนนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบ ๆ ไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะแย่งชิงความเด่นอีกต่อไป แต่เป็นการไตร่ตรองถึงภาพลักษณ์ที่ตนเองอยากจะเป็น
ร้านแกะสลักไม้ตระกูลเฉินที่มีอายุเกือบร้อยปีแล้ว กำลังเผชิญกับภาวะซบเซา แม้คุณเฉินเหวินไฉจะมีฝีมือด้านงานหัตถศิลป์แต่ไม่มีเวทีให้แสดงความสามารถ เขาเคยคิดจะเกษียณตัวเองและปิดกิจการ แต่หลังได้รับการแนะนำจากทีมออกแบบ Beautiful Touch ทำให้ร้านแกะสลักไม้ตระกูลเฉินเริ่มร่วมมือแบบข้ามศาสตร์กับดีไซเนอร์ในวงการธุรกิจ ผลิตป้ายร้านค้าให้แก่สตูดิโอของดีไซเนอร์หรือแบรนด์สินค้านวัตกรรมจำนวนมาก อาทิ Joe Fang Studio, Light House, Bleu & Book, และ Fufu Grocery Store เป็นต้น จากการออกแบบและฝีมือหัตถศิลป์ที่อ่อนช้อยส่งผลให้ป้ายไม้แกะสลักเหล่านี้ กลายเป็นทัศนียภาพตามท้องถนนที่วิจิตรงดงาม
ป้ายร้านค้าทุกป้ายล้วนมีเรื่องราวของตนเอง อย่างป้ายร้านขนม “สี่เยว่” ที่ลู่กั่ง ตัวอักษรบนป้ายเขียนโดยบิดาเจ้าของร้าน ราวกับเป็นการสลักเจตนารมณ์ของตระกูลที่ต้องการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ลงบนป้ายร้าน
ร้านข้าวมัน “อู๋หมิง” ที่นครไถหนาน ขอให้ร้านแกะสลักไม้ตระกูลเฉินช่วยแกะสลักป้ายร้านเลียนแบบป้ายเก่าที่ทำจากโลหะ โดยอนุรักษ์รูปแบบตัวอักษร เลย์เอาต์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอาไว้เพื่อให้ความเก่าแก่ของร้านยังคงสืบทอดต่อไป
1035 collab ร้านกาแฟในนครไทจงที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว เป็นการรีโนเวทอาคารเก่าในทศวรรษ 1910 ชื่อร้านมาจากหมายเลขโทรศัพท์ในยุคญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน รูปสัญญาณมือแทนตัวเลข 1035 ที่แกะสลักโดยคุณเฉินเหวินไฉ ถูกนำมาติดที่หน้าร้านดึงดูดสายตาผู้คนเป็นอย่างมาก
ป้ายร้าน Hello Tattoo Studio ที่คุณเฉินเหวินไฉสะบัดพู่กันด้วยตนเองอีกครั้ง ตัวอักษรสามมิติบนป้ายร้านทำให้ทัศนียภาพป้ายร้านค้าในอดีตปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ร้านออส่วนหอยนางรมข้างวงเวียนที่ตลาดกลางคืนหนิงเซี่ย ซึ่งเป็นสตรีทฟู้ดไต้หวันที่ได้รับมิชลิน บิบ กูร์มองด์ เจ้าของร้านมอบหมายให้ดีไซเนอร์ออกแบบป้ายร้านแล้วส่งต่อให้ร้านแกะสลักไม้ตระกูลเฉินเป็นผู้แกะสลัก
ใช้เทคนิคการแกะภาพให้นูนขึ้น ตัวอักษรที่เขียนแบบเฟยไป๋ (飛白) ซึ่งเป็นวิธีเขียนตัวอักษรแบบโบราณ สะท้อนถึงอายุขัยอันยาวนาน หอยนางรมบนป้ายร้านดูสดใหม่น่ารับประทาน เป็นผลสำเร็จอันงดงามที่เกิดจากการผนวกรวมกันของอาหารว่างกับงานหัตถศิลป์แบบดั้งเดิมของไต้หวัน
จากการวางผังเมืองไปจนถึงงานช่างหัตถศิลป์ จะเห็นได้ว่า เรื่องราวของป้ายร้านค้าเกี่ยวพันและครอบคลุมทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง ยากที่จะพรรณนาออกมาด้วยคำพูด “หากไม่มีพหุวัฒนธรรม ก็จะไม่มีป้ายร้านค้าที่น่าสนใจ” ขอใช้ประโยคนี้ของดร. หลี่หมิงชง มาเป็นบทสรุปชั่วคราวไปก่อนก็แล้วกัน
ภูมิทัศน์ป้ายร้านค้าตามท้องถนนในไต้หวันที่เริ่มค้นพบบริบทของตนเอง ในภาพเป็นหน้าร้าน 1035 collab ซึ่งเป็นร้านกาแฟในนครไทจงที่นำอาคารเก่ามารีโนเวทใหม่
ป้ายไม้แกะสลักของร้านแกะสลักไม้ตระกูลเฉินหลอมรวมจุดเด่นของการออกแบบและฝีมือหัตถศิลป์
คุณเฉินเหวินไฉที่เก่งกาจด้านงานหัตถศิลป์ ในยุคปัจจุบันก็ยังมีเวทีใหม่ให้สำแดงฝีมือได้อย่างเต็มที่