อุปรากรฮากกาดึงดูดผู้คนให้ลุ่มหลง
“ในละครงิ้วเก็บใบชาที่มีนักแสดง 3 คน แต่ละคนต้องรับหน้าที่นักแสดง ดีดพิณ และตีกลอง จัดเป็นการแสดงที่ประหยัดค่าใช้จ่ายมาก” การนำเค้าโครงเรื่องของละครงิ้วขนาดเล็กๆ ที่แสดงตามหมู่บ้านบนป่าเขาและลานหน้าศาลเจ้าในแถบชนบทมาปรับปรุงให้มีความหลากหลายขึ้น จำเป็นต้องมีนักแสดงมากพอที่จะสวมบทบาทตัวละคร ซึ่งต้องมีทั้งพระเอก นางเอก คนชรา ตัวตลก และอื่นๆ เฉพาะปีค.ศ.2017 ได้เปิดการแสดงอุปรากรฮากกาในโรงละครแห่งชาติถึง 10 ครั้ง โดยคุณเจิ้งหรงซิงเป็นผู้สวมบทบาทสำคัญ
“ตั้งแต่เริ่มเขียนบทจนถึงเปิดการแสดงอย่างเป็นทางการ อย่างน้อยต้องใช้เวลา 1 ปีเต็มๆ” ละครงิ้วที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและประณีต และทุกครั้งที่เปิดการแสดงได้สร้างกระแสฮือฮาเป็นอย่างมาก “ละครงิ้วเรื่องเดียวกันแต่สถานที่แสดงต่างกัน จำเป็นต้องปรับแสงไฟและซ้อมบทกันใหม่” อีกทั้งยังต้องใช้แนวคิดล้ำสมัยด้านศิลปะการแสดงบนเวทีในยุคปัจจุบันมาเพิ่มความประณีตให้แก่ละครงิ้วแบบดั้งเดิมด้วย
“อุปรากรฮากกาสามารถเปิดการแสดงในไทเปที่เป็นเมืองใหญ่ได้อีกครั้ง ราวกับปาฏิหาริย์เลยทีเดียว” ปีค.ศ.1987 เทศบาลกรุงไทเปได้มอบหมายให้มูลนิธิศิลปะพื้นบ้านจีน (Chinese Folk Arts Foundation) จัดงานเทศกาลศิลปะฮากกา (Hakka Arts Festival) เป็นครั้งแรกที่สวนสาธารณะ Taipei New Park (ปัจจุบันคือสวนสาธารณะ 228 Peace Memorial Park) คุณเจิ้งหรงซิงรวบรวมความกล้าหาญแจ้งเจตนารมณ์ของตนให้คุณสวี่ฉางฮุ่ย (許常惠) ผู้เป็นอาจารย์ได้ทราบ จากนั้นก็เดินทางกลับไปที่เหมี่ยวลี่เพื่อรวบรวมสมาชิกคณะงิ้วฮากกาประจำตระกูล ปานประหนึ่งเป็นลิขิตแห่งสวรรค์ “คณะชิ่งเหม่ยหยวน” ซึ่งใช้ชื่อตัวกลางของคุณปู่และคุณย่ามารวมกันเป็นชื่อคณะ เมื่อคุณย่าเสียชีวิตลง สมาชิกคณะจึงแตกกระสานซ่านเซ็น แต่ “เทศกาลศิลปะฮากกา” ในครั้งนี้ สามารถดึงสมาชิกเก่ากลับมาร่วมกันก่อตั้งคณะงิ้วฮากกาขึ้นใหม่อีกครั้งโดยใช้ชื่อว่า “คณะหรงซิง” ซึ่งเป็นชื่อของผู้เป็นหลานชาย เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษและนำงิ้วฮากกากลับขึ้นสู่เวทีการแสดงอีกครั้ง
“การแสดงในครั้งนั้นประสบความสำเร็จอย่างงดงาม” งิ้วฮาก กาที่เงียบหายไปเป็นเวลายาวนานสร้างกระแสฮือฮาในแวดวงชาวฮากกาที่เฝ้าคะนึงหาและยังช่วยกันบอกกล่าวเล่าต่อ “หลังสิ้นสุดเทศกาลศิลปะฮากกา ก็ได้รับเชิญให้ไปเปิดการแสดงไม่ขาดสาย” 3 ปีก่อนที่จะเข้าไปเปิดการแสดงที่โรงละครแห่งชาติ “คณะหรงซิง” ก็เริ่มตระเวนไปเปิดการแสดงในต่างประเทศตั้งแต่ปีค.ศ.1992 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามทุกรอบ
“จิตวิญญาณของงิ้วฮากกาก็คือ ความจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง กตัญญูต่อบิดามารดา ซื่อสัตย์ต่อคู่สมรส และมีความชอบธรรม” ในยุคที่การศึกษายังไม่แพร่หลาย ละครงิ้วมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งยวดทางการศึกษา ตั้งแต่บทพูดฮากกาไปจนถึงดนตรีประกอบ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงและเครื่องแต่งกาย ตลอดจนการแต่งหน้าและทรงผม คุณเจิ้งหรงซิงใส่ใจในทุกรายละเอียดและพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่ง “ทุกครั้งที่เราไปแสดงในต่างประเทศจะต้องเตรียมนำเสนอผลงานใหม่อย่างเต็มรูปแบบ”
คณะอุปรากรฮากกาหรงซิงมีผลงานใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากแสดงละครงิ้วแบบดั้งเดิมที่เน้นเรื่องความจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง กตัญญูต่อบิดามารดา ซื่อสัตย์ต่อคู่สมรส และความชอบธรรม ยังต้องปรับโครงเรื่องของละครให้มีความสนุกสนานครื้นเครงเพื่อให้สอดรับกับกระแสสังคมในยุคปัจจุบัน ละครทุกเรื่องจึงดึงดูดผู้ชมได้เป็นจำนวนมาก (ภาพจาก เจิ้งหรงซิง)